หลังจากมาดูสภาพศพของผู้ตายและลงความเห็นเป็นฝีมือของปอบ ผู้ใหญ่บ้านก็พานัฐพลและเพื่อน ๆ นักโบราณคดีที่รอดตายไปพักในหมู่บ้านชั่วคราวเพื่อรอเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำ ทองรำไพซึ่งเป็นภรรยาของผู้ใหญ่บ้านถือโอกาสมาทำความรู้จักกับคณะนัก โบราณคดี และแสดงท่าทีเชิญชวนให้ชายหนุ่มทุกคนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับตน ทำให้ ขวัญทิพย์ หญิงสาวที่เรียนจบระดับปริญญาตรีแต่กลับมาอยู่ดูแลยายซึ่งมีอายุมากแล้ว เกิดความรังเกียจกลุ่มนักโบราณคดี เพราะเจ้าชู้ไม่เลือก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทองรำไพเป็นภรรยาของผู้ใหญ่บ้าน ในขณะที่กลุ่มเพื่อนหนุ่มในหมู่บ้านซึ่งชอบประดิษฐ์คิดค้น งานศิลปะ และสะสมวัตถุโบราณ พยายามทำความสนิทสนมกับคณะนักโบราณคดี เพราะในกลุ่มนั้นมีหญิงสาวที่น่าสนใจรวมอยู่ด้วย
ขวัญทิพย์มองเห็นปัญหาของชาวบ้าน จึงแนะนำให้ชาวบ้านปลูกข้าวแค่พอกิน ไม่ปลูกข้าวเพื่อขาย และสร้างโรงสีเพื่อสีข้าวเองจะได้ไม่ต้องขายข้าวราคาต่ำให้กับพ่อค้า เถ้าแก่โรงสีซึ่งมีอิทธิพลต่อชาวบ้านในฐานะเจ้าหนี้เงินกู้และกำลังกว้าน ซื้อที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาจึงไม่พอใจขวัญทิพย์ ดังนั้น เมื่อนักโบราณคดีอีกคนหนึ่งถูกฆ่าตาย เถ้าแก่โรงสีจึงกล่าวหาว่ายายของขวัญทิพย์เป็นปอบที่ฆ่านักโบราณคดีตาย และถ้ายายเป็นปอบ ขวัญทิพย์ก็จะต้องเป็นปอบไปด้วย ทางเดียวที่จะทำให้คนในหมู่บ้านปลอดภัยก็คือ ต้องขับไล่วิญญาณปอบออกจากยายของขวัญทิพย์ หรือขับไล่ขวัญทิพย์และยายออกไปจากหมู่บ้าน
แท้ที่จริง 20 ปีที่ผ่านไป หยิบได้รับการพามารักษาตัวโดยผู้มีความชำนาญด้านสมุนไพรมาตลอดโดยไม่มีใคร ระแคะระคาย ขวัญทิพย์ซึ่งแวะเวียนมาเอายาสมุนไพรไปรักษายายอยู่เสมอก็รู้เพียงว่า ผู้ที่ผสมยาสมุนไพรให้เธอไปรักษายายจนยายค่อย ๆ มีอาการดีขึ้นตามลำดับ กำลังแอบรักษาหญิงแก่คนหนึ่งให้หายจากโรคประหลาดด้วยยาสมุนไพรและกินอาหาร มังสวิรัติมาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่ด้วยความอดอยากอาหารสดคาวที่เคยกิน เมื่อมีโอกาส หยิบจึงมักแอบออกไปหาอาหารประเภทเนื้อสัตว์กินเสมอ จนมีชาวบ้านบางคนมาพบและรู้ว่าหยิบยังมีชีวิตอยู่
Post a Comment